เชื่อว่าในการสมัครงานต้องเคยเกิดเหตุการณ์ที่คุณมั่นใจว่าจบการสัมภาษณ์งานครั้งนี้แล้วจะได้รับ “ข้อเสนอ” ตอบกลับจากบริษัทแน่ๆ แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าบริษัทเชิญให้กลับไปสัมภาษณ์งานอีกครั้งกลายเป็น “สัมภาษณ์งานรอบสอง” หรืออาจจะมากกว่านั้น
ในบทความนี้ Reeracoen Thailand จะพาไปหาคำตอบว่าทำไมบริษัทจึงต้องมีการสัมภาษณ์งานหลายรอบและเราสามารถคาดเดาอนาคตของตัวเองได้อย่างไรบ้าง
ทำไมต้องมีการสัมภาษณ์งานหลายรอบ
โดยทั่วไปการสัมภาษณ์งานครั้งเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการชี้วัดความเหมาะสมในการรับเข้าทำงานอย่างรอบด้าน เพราะนอกจากเรื่องทักษะความสามารถแล้วยังมีส่วนอื่นที่ต้องพิจารณา อาทิ ทัศนคติ เป้าหมายการทำงาน ความคาดหวัง เงินเดือน แผนการในระยะยาว
ยิ่งบางตำแหน่งงานในบางบริษัท อาทิ ระดับ Senior ขึ้นไปซึ่งต้องแบกรับความรับผิดชอบและมีบทบาทกับความสำคัญในองค์กรค่อนข้างสูงบริษัทเองก็ต้องมีการวางแผนคัดเลือกผู้สมัครแต่ละคนอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันความผิดพลาดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
นอกจากนี้การสัมภาษณ์รอบที่สองมักจะเป็นขั้นตอนลำดับท้ายๆ โดยเป็นการสัมภาษณ์โดยผู้ที่รับผิดชอบดูแลการทำงานของเราเพื่อดูแนวโน้มและตัดสินใจว่าจะสามารถทำงานได้ดีที่สุดกับผู้สมัครคนไหน
สัมภาษณ์งานหลายครั้งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้สมัครไหม
อย่างที่อธิบายว่าตำแหน่งงานที่สำคัญนั้นจำเป็นต้องมีการคัดกรองอย่างดีที่สุด ดังนั้นหากบริษัทมีการนัดเพิ่มเติมหลังจากสัมภาษณ์ครั้งแรกก็อาจมีสิทธิที่เราจะถูกพิจารณาอยู่ในกลุ่มผู้สมัครที่เข้าข่าย “ใกล้เคียง” แต่ถ้าสัมภาษณ์งานครั้งแรกจบแล้วเป็นที่แน่ชัดว่าเราอยู่ในกลุ่มที่ไม่มีแววส่วนใหญ่บริษัทก็มักจะไม่ติดต่อกลับมานัดสัมภาษณ์เพิ่มเติมอีก
อย่างไรก็ตามอาจมีกรณีที่บริษัทได้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ที่ไม่เพียงพอจนเกิดสถานการณ์ที่ “ตัดสินใจไม่ได้” จึงต้องมีการนัดพูดคุยเพิ่มเติมนั่นเอง
ข้อดี
1) เราสามารถสอบถามข้อมูลที่สงสัยเกี่ยวกับบริษัทได้มากขึ้น
ในการสัมภาษณ์งานรอบสอง เราสามารถใช้โอกาสหาคำตอบในเรื่องต่างๆ เพื่อศึกษาข้อมูลองค์กรอย่างละเอียด อาทิ รูปแบบธุรกิจ โครงสร้างการทำงานซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจได้ชัดเจนขึ้นว่าเหมาะกับตัวเองแค่ไหนและควรไปต่อหรือไม่
2) มีโอกาสได้ทำความคุ้นเคยกับบรรยากาศและเพื่อนร่วมงาน
หลายๆ ครั้งการสัมภาษณ์งานรอบที่สองมักจะเปิดโอกาสให้ผู้สมัคร (ที่มีแนวโน้มจะผ่านการคัดเลือก) ได้พบเจอกับพนักงานคนอื่นๆ เช่น หัวหน้า เพื่อนร่วมทีม รวมถึงบรรยากาศในการทำงานเพื่อทำความคุ้นเคยก่อนเริ่มงานจริง
ข้อเสีย
1) ด้านเวลา
หากเราอยู่ในช่วงที่กำลังต้องการงานแล้วสมัครไปหลายบริษัท ซึ่งผลลัพธ์คือผ่านการสัมภาษณ์และได้รับ Job offer มากกว่า 1 ที่ อาจมีกรณีที่เราไม่สามารถรอได้ และต้องจำใจเลือกเป้าหมายรองโดยตัดเป้าหมายอันดับหนึ่งออกเนื่องจากใช้เวลาพิจารณานานกว่าที่อื่น
2) ความไม่แน่นอนของตำแหน่งงาน
แม้จะเป็นสัญญาณว่าเรา “มีโอกาส” แต่ก็ไม่รับประกัน 100% ว่าเราจะได้งาน ทำให้ในระหว่างรอฝั่งบริษัททำการตัดสินใจอาจเกิดกรณีที่แย่ที่สุดคือสูญเสียทั้งเวลาและโอกาสในการทำงานกับที่อื่นไปเช่นกัน
สร้างโอกาสให้ตัวเอง หางานผ่านเครือข่าย Recruiter มืออาชีพ
อ่านบทความเพิ่มเติมที่:
5 ข้อสังเกตเมื่อเรากำลังไปได้ดีกับหน้าที่การงาน
ควรตอบอย่างไรหาก HR ถามว่า “คุณเห็นตัวเองเป็นอย่างไรในอีก 5 ปีข้างหน้า”
แปลและเรียบเรียงจาก:
#ReeracoenRecruitment #ReeracoenThailand