Reeracoen Thailand Regional Blog

  • Job Seekers
  • Employers

รู้จักและรับมือกับ ‘เทคนิค’ ที่นายจ้างชอบใช้ดึงดูดผู้สมัคร

  • Home
  • How to
  • รู้จักและรับมือกับ ‘เทคนิค’ ที่นายจ้างชอบใช้ดึงดูดผู้สมัคร

Select Category

ก่อนหน้านี้ เรามีข้อมูลที่เคยชี้ให้เห็นเทคนิคที่คนมักใช้ในการสมัครงาน เช่น แต่งโปรไฟล์ดีเกินจริง หรือแอบมีการขี้โม้คุณสมบัติตัวเองบ้างในบางส่วนเพื่อดึงดูดความสนใจจากองค์กรให้ได้มากที่สุด แต่ในฐานะผู้สมัคร คุณเคยเอะใจไหมว่าจากข้อมูลทั้งหมดที่เราได้รับระหว่างการสมัครงานในนั้นมีข้อมูลที่เป็น ‘เรื่องจริง’ อยู่กี่เปอร์เซ็นต์?

เนื่องจากผลสำรวจโดย Resume Builder โดยมีผู้รับผิดชอบด้านการจ้างงานเข้าร่วมจำนวน 1,060 คน

กำลังชี้ให้เห็นข้อมูลอีกด้านที่ผู้สมัครอาจไม่เคยรู้ตัวเมื่อ HR ที่ดูแลด้านการจ้างงานจำนวนกว่าครึ่ง

ออกมายอมรับว่าพวกเขามักจะใช้ ‘กลยุทธ์’ บางอย่างเพื่อดึงดูดให้มีจำนวนคนสมัครเข้ามาเยอะๆ เช่นกัน

ซึ่งจะมีอะไรบ้าง แล้วคนทำงานแบบเราจะรับมืออย่างไร Reeracoen Thailand ได้สรุปมาให้แล้วครับ

ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ

    • HR จำนวน 36% ยอมรับว่าเคยโกหกผู้สมัคร

      เกี่ยวกับตำแหน่งงานและข้อมูลองค์กร

    • 75% จากกลุ่มดังกล่าว โกหกระหว่างสัมภาษณ์งาน52% ทำตั้งแต่ตอนเขียนรายละเอียดตำแหน่งงาน

    • ข้อมูลส่วนใหญ่ที่ถูกนายจ้างปรับเปลี่ยน

      คือหน้าที่และความรับผิดชอบต่องาน

      ตลอดจนโอกาสที่จะได้เติบโตในองค์กร

    • 80% ระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ ‘ยอมรับได้’

    • และที่สำคัญคือ 9 ใน 10 ของผู้สมัครเหล่านี้

      สุดท้ายมักจะลงเอยด้วยการตกลงเริ่มงานในที่สุด

6 อันดับสาเหตุที่ทำให้ HR จำเป็นต้องโกหก

    1. ปกป้องข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน

    2. ปกปิด ‘ด้านลบ’ ขององค์กร

    3. ดึงดูดผู้สมัครเข้ามาให้เยอะๆ

    4. ต้องการกล่อมผู้สมัครให้คล้อยตาม

    5. ทำให้ตัวงานดูดีขึ้นจากความเป็นจริง

    6. ล่อซื้อผู้สมัครที่มีศักยภาพสูง

วิธีการรับมือในฐานะผู้สมัคร

ถ้าไม่อยากให้ความเป็นจริงนั้นช่างต่างไปจากสิ่งที่หวัง อย่าด่วนตัดสินใจด้วยการค้นหาข้อมูลองค์กรจากเว็บไซต์ที่มีอยู่ไม่กี่หน้า แล้วไปมุ่งเป้าเค้นหา ‘ความจริง’ ให้ได้จากการสัมภาษณ์งานด้วยกลยุทธ์ที่ช่วยกำหนดคำถามอย่างมีประสิทธิภาพ

1) รู้ว่าตัวเอง ‘อยากรู้’ เรื่องอะไร

ก่อนที่เราจะเริ่มต้นค้นหาข้อมูลที่สำคัญต่อตัวเอง อันดับแรกเราต้องรู้ก่อนว่าตัวเราให้ความสำคัญกับอะไร

อย่างในการสมัครงาน เราก็คงอยากรู้ข้อมูลในหลายๆ ด้านเพื่อประเมินภาพรวมและวางแผนให้อนาคตของตัวเอง

เช่น โครงสร้างเงินเดือน ขนาดทีม หน้าที่ ความคาดหวังและอื่นๆ ที่อาจส่งผลให้เราไม่มีความสุขในการทำงาน

2) อย่าเพิ่ง ‘เชื่อ’ ทุกข้อมูลที่ได้ยินเป็นครั้งแรก

เนื่องจากมนุษย์เรามักจะมีสิ่งที่เรียกว่า confirmation bias

ซึ่งทำให้เราปักใจเชื่อแต่ข้อมูลที่สนับสนุนความคิดของตัวเอง

ดังนั้นก่อนที่จะเชื่อทุกอย่างแบบหมดใจ เราสามารถใช้เวลาในห้องสัมภาษณ์คุยรายละเอียดเชิงลึก

เพราะบางอย่างอาจมีเงื่อนไขที่ยังนายจ้างยังไม่ได้บอก

3) อย่าเสียโอกาสที่จะตั้งคำถาม

แม้ในทางทฤษฎี การสัมภาษณ์งานคือการสื่อสารระหว่างสองฝ่าย

แต่ในทางปฏิบัติ เรามักไม่ค่อยมีโอกาสหรือเวลามากมายที่จะถาม

ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังนายจ้างเปิดโอกาสให้หลังสัมภาษณ์เสร็จ

คำถามที่เราจะนำมาใช้จึงควร ‘ตรงประเด็น’ และนำไปสู่คำตอบที่ช่วยคลายข้อสงสัยเราได้ดีที่สุด

เช่น คนแบบไหนที่จะสำเร็จกับการทำงานที่นี่ นอกจากหน้าที่ใน Job description แล้วยังมีอะไรเพิ่มเติมบ้าง

ใครที่จะได้ทำงานด้วยอย่างใกล้ชิดที่สุด เป้าหมายสามอันดับแรกที่องค์กรคาดหวังคืออะไร

ยิ่งเรารู้ข้อมูลองค์กรที่เป็นความจริงได้มากเท่าไร ก็ยิ่งช่วยให้เราเริ่มต้นชีวิตในที่ทำงานใหม่ได้ดีมากขึ้นเท่านั้น

ฝากโปรไฟล์ไว้กับเรา Reeracoen Recruitment

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติม:

แนะนำ 9 คำถามสัมภาษณ์งานสำหรับคนที่ไม่อยาก ‘เฟล’ กับงานใหม่

สถิติ ‘คำพูด’ ที่ใช้ระหว่างสัมภาษณ์งานซึ่งแยกระหว่างผู้สมัครที่ดี และคนที่จะไม่ได้งาน

แปลและเรียบเรียงจาก:

https://bit.ly/4b5RZSX

https://bit.ly/3HtOicf

#ReeracoenRecruitment #ReeracoenThailand #Recruitment

Related Posts