เมื่อเกิดอาการ “หัวร้อน” กับที่ทำงาน ไม่ว่าจะสาเหตุจะเกิดจากอะไร เรามีวิธีรับมือและจัดการกับอารมณ์นั้นอย่างไร?
1) ระงับสติ สงบจิตใจ
2) ปรึกษาเพื่อนหรือคนที่คิดเหมือนกัน
3) คุยกับหัวหน้าหรือ HR เพื่อแก้ปัญหา
4) ตำหนิออกสื่อ เช่น โพสต์ด่าลงโซเชียลมีเดีย
มีหลายคนที่เลือกข้อ 4 เพราะเป็นหนึ่งในช่องทางที่ง่ายที่สุด และเป็นพื้นที่ของตัวเองโดยไม่รู้ว่าผลเสียที่อาจตามมานั้นคืออะไร ร้ายแรงได้ขนาดไหน โดยเว็บไซต์ lawyers.in.th ได้อธิบายว่า
“การด่านายจ้างหรือที่ทำงานออกสื่อและทำให้เกิดความเสียหาย ถือเป็นความผิดตามพรบ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2551 มาตรา 119 (2) ซึ่งนายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้ทันทีโดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย”
นอกจากเป็นการทำผิดตามกฎหมายแล้ว ยังส่งผลไปถึงอนาคตด้วย โดยการสมัครงานอาจยากขึ้นเนื่องจากประวัติที่ไม่ดี แม้คุณสมบัติอื่นจะผ่านแต่ถ้ามีพฤติกรรมที่สามารถทำให้องค์กรเสียหาย HR บางคนก็อาจเลือกที่จะไม่เสี่ยง
และถ้าพูดถึงการด่าที่ทำงานออกสื่อ ตัวอย่างล่าสุดคงต้องพูดถึงกรณีของ “คริสเตียโน โรนัลโด” ชายที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก ทั้งในแง่ของผลงานและความประพฤติ จนคนทั่วโลกรักและสนับสนุนเขามาตลอด แต่ล่าสุดกลับมีประเด็นดรามาเมื่อ คริสเตียโน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อในเชิง “ตำหนิสโมสร” ชนิดไม่ไว้หน้า โดนหมดทั้งหัวหน้าและเพื่อนร่วมทีม ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน โดยหลังจากนั้นก็มีทั้งกระแสตีกลับทั้งจากฝั่งคนรักสโมสรที่ออกมาตำหนิการกระทำของคริสเตียโน และก็มีอีกส่วนที่เห็นด้วยกับเขา
ที่แน่นอนก็คือ “ผลที่ตามมา” ซึ่งถือเป็นจุดแตกหักระหว่างสองฝ่าย ถ้าไม่ได้ย้ายออก กลับมาแล้วจะมองหน้ากับเพื่อนร่วมงานติดเหมือนเดิมไหม หรือถ้าย้ายออกไปแล้วจะมีผลต่อการหาต้นสังกัดใหม่หรือเปล่า เพราะแม้จะมีความสามารถ แต่ถ้ามีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงก็เป็นจุดที่ต้องพิจารณาเช่นกัน คงไม่มีองค์กรไหนอยากโดนพนักงานนำเรื่องภายในออกไปพูดในที่สาธารณะจนเสียหาย
สุดท้ายแล้วคุณคิดอย่างไร ถ้าหากมีคนเก่งแต่ประวัติไม่ดี เคยด่าที่ทำงานออกสื่อจนองค์กรเสียหายเข้ามาสมัครงานในบริษัท คุณจะรับเข้ามาหรือเลือกตัดความเสี่ยงออกไป?
ติดตามบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม
ทำยังไงเมื่อ “หมดใจกับที่ทำงาน” อยากลาออก แต่ก็ยังทำไม่ได้
อ้างอิงจาก:
http://bit.ly/3hRiJ2w
http://bit.ly/3UM2r9u
#ReeracoenRecruitment
#ReeracoenThailand
#ChristianoRonaldo #CR7 #ManchesterUnited