Reeracoen Thailand Regional Blog

  • Job Seekers
  • Employers

สรุป Insight วิธีทำให้โปรไฟล์ดึงดูดโอกาสงานเข้ามามากขึ้น จากประสบการณ์ของ Recruiter

  • Home
  • General Topic
  • สรุป Insight วิธีทำให้โปรไฟล์ดึงดูดโอกาสงานเข้ามามากขึ้น จากประสบการณ์ของ Recruiter

Select Category

สรุป Insight วิธีทำให้โปรไฟล์ดึงดูดโอกาสงานเข้ามามากขึ้น

สรุป Insight วิธีทำให้โปรไฟล์ดึงดูดโอกาสงานเข้ามามากขึ้น จากประสบการณ์ของ Recruiter

เคยสงสัยไหมว่าบางครั้งคนรอบตัวเรามักจะถูกติดต่องาน หรือได้รับการยื่นข้อเสนอที่ดีจากบริษัทมากมายอยู่เรื่อย แต่พอนำมาเปรียบเทียบกับตัวเองแล้วกลับไม่มีแบบนั้นเลยทั้งที่ความสามารถเราก็ไม่ได้ด้อยแต่ “โอกาส” กลับต่างกัน แล้วสาเหตุคือดวงที่ทำให้ชะตาชีวิตของคนเราไม่เท่ากัน หรือแท้จริงเป็นเพราะขาดเทคนิคที่จะทำให้โปรไฟล์ “เตะตา”

วันนี้ Reeracoen Thailand จะมาสรุปวิธีทำให้โปรไฟล์ของคุณดูโดดเด่นเตะตานายจ้าง รวมถึง Recruiter จากบริษัทจัดหางาน ด้วยการปรับเนื้อหาให้ตรงตาม Checkpoint แบบครบจบกันไปเลย

  • การใส่ข้อมูล Career summary ส่วนตัว

งานของ Recruiter คือการคัดกรองโปรไฟล์ของคนจำนวนมาก ทำให้มีเวลาเพียงสั้นๆ สำหรับอ่านเนื้อหาที่ถูกเขียนไว้บนเรซูเม่ ดังนั้นจุดที่จะถูกมองเห็นเป็นส่วนแรกจึงเป็นส่วนสรุป (Summary) ซึ่งควรอธิบายสาระสำคัญได้ภายใน 2-3 ประโยคให้กระชับและน่าสนใจ โดยเน้นที่ความโดดเด่น ประสบการณ์ และเป้าหมายในอาชีพ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกดี อยากทำความรู้จักเจ้าของโปรไฟล์นี้มากขึ้น (ไม่ควรใช้คำศัพท์เฉพาะกลุ่มมากเกินไป เพราะจะทำให้เข้าใจยาก)

  • ระบุ Skills สำคัญที่นายจ้างต้องการให้ครบ

ส่วนสำคัญต่อมาสำหรับการทำให้ Recruiter รู้สึกสะดุดตา ผู้สมัครจะต้องระบุชุดทักษะที่สำคัญกับอาชีพของตัวเองและกำลังเป็นที่ต้องการสำหรับองค์กรนายจ้างให้เด่นชัด ควรแบ่งกลุ่มเป็นทักษะเชิงการทำงาน (Hard skills) กับทักษะที่ใช้ในการอยู่ร่วมสังคม (Soft skills) ซึ่งจะดีมากหากอธิบายว่าใช้ทักษะนั้นๆ กับงานในส่วนไหน

  • ใส่ Achievements ที่ได้รับจากการทำงานลงไปด้วย

การระบุ “ความสำเร็จ” ถือเป็นตัวช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโปรไฟล์ได้มาก เพราะยืนยันว่านอกจากจะ “ทำงานได้” แล้วยังมี “ผลลัพธ์” ให้เห็นอีกด้วย
เคล็ดลับคือการใส่ข้อมูลเป็นตัวเลขที่วัดผลได้ภายในช่วงกรอบเวลา

  • Job Description และระยะเวลาการทำงานที่ชัดเจน

หลายครั้งที่ผู้สมัครเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดายมากๆ เพียงเพราะไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับลักษณะงานที่เคยทำมา กลายเป็นอ่านแล้วก็ยังไม่รู้ว่าประสบการณ์มีอะไรบ้าง หรือลืมระบุระยะเวลาการทำงานในแต่ละบริษัท เช่น ระบุเฉพาะปีที่ทำงาน แต่ไม่บอกเดือน ข้อผิดพลาดแบบนี้ก็จะทำให้ผู้อ่านไม่รู้อายุงาน ไม่มั่นใจว่าเจ้าของโปรไฟล์เชี่ยวชาญงานนั้นๆ แค่ไหน

  • ใส่คำค้นหา (Keywords) ที่จะนำ Recruiter มาเจอโปรไฟล์

เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีการหางานผ่านเว็บประกาศงาน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคู่แข่งที่ฝากโปรไฟล์ไว้บนช่องทางเดียวกันหลายคน ซึ่งวิธีทำให้โปรไฟล์ของเราถูกเจอก่อนคนอื่นๆ ก็จะมาจากการใช้ Keywords หรือคำที่ Recruiter จะใช้ค้นหาโปรไฟล์ของกลุ่มคนที่กำลังต้องการ ลองนึกว่าในตำแหน่งของเราจะถูกค้นหาด้วยคำว่าอะไรบ้าง แล้วโปรไฟล์ของเรามีคำเหล่านั้นระบุไว้หรือยัง เพื่อเพิ่มโอกาสให้ถูกระบบค้นหาเจอได้มากขึ้น

  • อัปเดตโปรไฟล์เป็นประจำ

เป็นเคล็ดลับที่สำคัญมากแต่หลายคนก็ยังมองข้ามอยู่เสมอ โดยเฉลี่ยแล้วผู้สมัครที่ขาดการอัปเดตโปรไฟล์นานกว่า 3 เดือน มักจะเป็นกลุ่มที่อยู่ในช่วง “ไม่เปิดรับโอกาส” สำหรับงานใหม่ Recruiter จึงมักจะหลีกเลี่ยงการติดต่อนำเสนองานให้ ดังนั้นถ้าอยากเพิ่มโอกาสในการได้งานจากภายนอกให้มากขึ้นก็ต้องพยายามทำให้โปรไฟล์ Active บนแพลตฟอร์มอยู่เสมอ

  • ปรับแต่งโปรไฟล์ให้เหมาะกับงานแต่ละที่

หลายคนคิดว่าการสร้างโปรไฟล์สมัครงานแบบกว้างๆ จะช่วยเพิ่มความสะดวกเมื่อต้องการสมัครงานหลายบริษัท รวมถึงมีโอกาสได้รับการติดต่องานมากขึ้นกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตาม ข้อเสียก็คือโปรไฟล์ของเราจะไม่โดดเด่น ขาดความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเมื่อเทียบกับคู่แข่งคนอื่น

อยากรู้ว่าโปรไฟล์ที่ดีควรเป็นแบบไหน ออกแบบเรซูเม่อย่างไรให้โดนใจ HR ด้วยหลักการจัดหน้าแบบ F Method

ฝากโปรไฟล์หางานฟรี! สร้าง Passive Job Opportunity และให้โอกาสงานที่ใช่เป็นฝ่ายเข้าหาคุณ
ลงทะเบียนฝากโปรไฟล์กับ Reeracoen Thailand

Related Posts