สมัยก่อนคำว่า "งานมั่นคง" คือความฝันสูงสุดของคนทำงานหลายๆคน แปลตรงๆ ก็คือ…ทำงานในบริษัทใหญ่ จ่ายเงินเดือนตรง ได้โบนัส อยู่ได้นาน ไม่ถูกไล่ออกง่ายๆ โอกาสตกงานน้อยนั่นแหล่ะ แต่พอมาอยู่ในยุคนี้ที่เราได้ยินข่าวบริษัทใหญ่ๆปลดพนักงานกันเป็นว่าเล่น ความรู้สึกมั่นคงในนิยามการทำงานแบบเดิม มันก็มีสั่นคลอน เมื่อการทำงานในบริษัทใหญ่ๆในสมัยนี้ ไม่ได้การันตีความรู้สึกมั่นคง นิยามของคำนี้ มันจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับองค์กรอีกต่อไปแล้ว แต่ขึ้นอยู่ว่าทักษะ ประสบการณ์ของเราเองเป็นสิ่งที่ตลาดงานกำลังต้องการอยู่รึเปล่า จากความคิดว่าจะต้องทำงานอยู่บริษัทนี้ไปอีก 10 ปี เปลี่ยนเป็นคิดว่าถ้าอยู่ที่นี่ 2 ปี เราจะโตขึ้นแค่ไหน? Job Security สำหรับคนทำงานยุคนี้คือความมั่นใจว่า... กำลังได้เรียนรู้อะไรบางอย่างที่ตลาดต้องการ กำลังมีโอกาสพัฒนาทักษะที่ใช้ได้มากกว่ากับแค่ที่นี่ มีหัวหน้าที่ให้โอกาส ไม่ใช่แค่ให้คำสั่ง ถ้าโลกข้างนอกเปลี่ยนเร็ว ทำงานที่นี่ก็ช่วยให้ไม่ตกขบวน นิยามความมั่นคงในแบบใหม่ = ไปต่อได้ แม้ต้องไปทำงานที่อื่น สำหรับองค์กรที่อยากรักษาคนเก่งไว้ Job Security ไม่ใช่แค่จ่ายเงินเดือนตรงเวลา แต่คือการสร้างระบบที่ทำให้พนักงานของเรารู้สึกว่า อยู่ที่นี่ = มีอนาคต ซึ่งอาจเริ่มจาก สื่อสารเป้าหมายองค์กรให้ชัดเจน เปิดพื้นที่ให้คนเสนอแนวคิดใหม่ ให้ Feedback ที่ไม่ใช่แค่ตอนประเมินผลประจำปี ส่งเสริมการเรียนรู้ และพัฒนา Reskill อย่างจริงจัง ให้เห็นทางเติบโตที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่ตำแหน่งบนกระดาษ . องค์กรที่ให้ Job Security แบบเดิม อาจรักษาคนไว้ได้อีกสักพัก แต่ถ้าอยากรักษาคนเก่งไว้ ในระยะยาว อย่าถามแค่ว่า... เขาจะอยู่กับเรานานไหม แต่ควรถามด้วยว่า.. เขาจะไปไกลขึ้นได้แค่ไหน เพราะได้อยู่กับเรา