Reeracoen Thailand Regional Blog

  • Job Seekers
  • Employers

Fintech คืออะไร? ทำความรู้จักกับหนึ่งในสายธุรกิจที่มาแรงที่สุดในโลก

  • Home
  • General Topic
  • Fintech คืออะไร? ทำความรู้จักกับหนึ่งในสายธุรกิจที่มาแรงที่สุดในโลก

Select Category

ถ้าคุณเคยสแกนคิวอาร์โค้ดเวลาจ่ายเงินซื้อของหรือเข้าแอปธนาคารเพื่อโอนเงินให้คนรู้จัก รวมถึงลงทุนในตลาดสกุลเงินดิจิทัล Cryptocurrency แปลว่าคุณคือหนึ่งในคนที่กำลังนำเทคโนโลยี Fintech มาใช้งานเพิ่มความสะสบายให้ตัวเองในชีวิตประจำวัน

หากพูดถึงอาชีพและสายงานที่กำลังมาแรงที่สุด ณ ตอนนี้คงหนีไม่พ้นอุตสาหกรรม Fintech หรือ Financial Technology ซึ่งเป็น “เทคโนโลยีด้านการเงิน” ที่มีบทบาทอย่างยิ่งกับชีวิตเราในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นระบบ Mobile Banking ที่แทบจะใช้กันแทนเงินสดไปแล้ว รวมถึงระบบ Payment Gateway, Insurtech, ระบบทำจ่ายเงินในองค์กร ตลอดจนสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Cryptocurrency ตระกูลต่างๆ โดยทั้งหมดนี้คือตัวอย่างเบื้องต้นของความร้อนแรงในสายงาน Fintech

ปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ จากอุตสาหกรรม Fintech คือหนึ่งปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีพในแต่ละวันของมนุษย์ ซึ่งมีการพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ และขยายตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อพิจารณาจากสถิติการใช้งานในสหรัฐฯ พบว่าอัตราการเติบโตของผู้ใช้เทคโนโลยีในกลุ่ม Fintech เพิ่มขึ้นจาก 58% ในปี 2020 เป็น 80% ในปี 2022 ถือว่าแซงหน้าอัตราการใช้งาน Social Media โดยเป็นรองแค่ “อินเทอร์เน็ต” ในแง่ของเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้งานอย่างกว้างขวางมากที่สุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าอัตราการใช้งานเทคโนโลยี Fintech ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงและทิศทางที่โลกกำลังจะเดินไป ซึ่งเข้าถึงเรื่องการเงินรวมถึงจัดการได้ง่ายขึ้นไม่น้อย ไม่ว่าจะเพื่อเก็บออม ลงทุน วางแผนการเงิน บริหารจัดการ ก็สามารถทำได้เพียงอาศัยแค่ “มือถือเครื่องเดียว”

Fintech คืออะไร?

ความหมายตามตัวอักษร Fintech คือคำที่เกิดขึ้นจากการผสมระหว่าง Financial และ Technology หมายถึงแอปพลิเคชัน เทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ ที่ช่วยให้ผู้คนหรือธุรกิจสามารถเข้าถึง จัดการ รับข้อมูลด้านการเงินของตัวเอง รวมถึงดำเนินการธุรกรรมทางการเงินได้ผ่านระบบดิจิทัลซึ่ง Fintech ได้กลายเป็นช่องทางในการให้ความสะดวกสบาย ด้วยการใช้งานที่หลากหลายและครอบคลุมทั้งฝาก ถอน โอน จ่าย ไปจนถึงวางแผนการเงินการลงทุนและกู้ยืมให้ง่ายยิ่งขึ้น

อ้างอิงรายงานผลกระทบจากการใช้งานเทคโนโลยี Fintech โดย Plaid พบว่านอกจากช่วยประหยัดเวลา บริหารการเงินได้สะดวกยิ่งขึ้น ยังช่วยป้องกันความผิดพลาด รวมถึง “ลดความกังวล” ด้านสถานะการเงินอีกด้วย

สำรวจภาพรวมอุตสาหกรรม Fintech

เมื่อย้อนดูอัตราการเติบโตในช่วงที่ผ่านมาจะพบว่าอุตสาหกรรม Fintech อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างน่าประทับใจ

หากนับจากแค่ในสหรัฐฯ พบว่ามีธุรกิจสตาร์ทอัปเกิดขึ้นใหม่กว่า 5,000 บริษัทภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี (2018-2023)

แม้จะมีธุรกิจเกิดใหม่ในสาย Fintech มากมาย แต่ถึงอย่างนั้นภาพรวมอุตสาหกรรม Fintech เริ่มชะลอตัวลง

ด้วยการหดตัวของตัวเลขการระดมทุนจากสูงสุด 132 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2021

นับเป็น 21% ของเงินการลงทุนทั้งหมดทั่วโลกจนลดลงเหลือ 75.2 พันล้านเหรียญฯ ในปี 2022 (หดตัว 46%)

อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวไม่ได้แปลว่าสายงาน Fintech จะเป็นที่ต้องการน้อยลง

เนื่องจากหากนับจริงๆ ปี 2022 ก็ยังคงระดมทุนได้มากกว่าปี 2020 ถึง 52% อยู่ดี

แสดงให้เห็นว่า “ความต้องการ” นั้นไม่ได้ลดลง เพียงแต่ตลาดภาพรวมกำลังอยู่ในช่วง “ปรับตัว” ให้คงที่มากขึ้น

ประเภทของเทคโนโลยี Fintech ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

วัตถุประสงค์การให้บริการของเทคโนโลยี Fintech มีอยู่อย่างกว้างขวางตั้งแต่ B2B, B2C

รวมถึงผู้คนสู่ผู้คน (P2P) ด้วยเช่นกัน โดยแบ่งประเภทที่คุ้นเคยกันในชีวิตประจำวัน 3 รูปแบบดังนี้

1) Banking

หนึ่งในเทคโนโลยี Fintech ที่คนนึกถึงมากที่สุดเนื่องจากเป็นเครื่องมือเกี่ยวกับ “การเงิน” ผ่าน “เทคโนโลยี” โดยตรง สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ทุกรูปแบบผ่านอุปกรณ์อย่างแอปฯ ธนาคาร ที่เราติดใช้งานกันเป็นประจำในทุกวันนี้

2) Cryptocurrency

หากพูดถึงเทคโนโลยีที่อาจจะพลิกโฉมโลกคงไม่อาจมองข้ามคำว่า “คริปโต” หรือ Cryptocurrency ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มี “มูลค่า” เสมือนหรือมากกว่าเงินจริงเพื่อลดกำแพงของค่าเงินที่ถูกควบคุม (Centralized) เช่น Bitcoin ที่เคยมีมูลค่าขึ้นไปแตะเกินหลัก 2 ล้านบาทมาแล้วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บางส่วนมองว่าเป็นข้อดีที่ทำให้เกิดความเท่าเทียมทางการเงินในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งมองว่าอาจเป็นภัยต่อระบบการเงินโลกได้

3) Digital Payments

คือระบบการจ่ายเงิน ชำระค่าสินค้า/บริการผ่านเทคโนโลยี ตัวอย่างที่คนส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยกัน ได้แก่ E-Wallet ในแอปฯ ต่างๆ ที่เราต้องดาวน์โหลดและลงทะเบียนสร้างบัญชีผู้ใช้ก่อน ซึ่งสามารถใช้จ่ายผ่านแอปฯ ได้โดยตรงไม่ต้องผ่านแอปฯ ธนาคาร

ตัวอย่างผู้ให้บริการและการเติบโตของ Fintech ในไทย

อันดับแรกๆ ที่ต้องพูดถึงคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากกลุ่ม Mobile Banking และ Digital Payments อาทิ KPlus, SCB Easy, TrueMoney Wallet รวมถึง Cryptocurrency ที่มีแพลตฟอร์มซื้อขายอย่าง Bitcub เป็นต้น

หากจะพูดถึงรายเล็กหรือธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นมาในช่วงระยะหลังๆ มานี้ก็มีรายงานในปี 2023 จาก Fintech Singapore ที่ได้รายงานสถานการณ์ในประเทศไทยว่ามีบริษัทสตาร์ทอัปเกิดใหม่ในกลุ่มสายงาน Fintech อยู่ที่จำนวนราวๆ 107 บริษัท โดยจัดอยู่ในกลุ่ม Payment เป็นส่วนใหญ่

ตำแหน่งงานที่รองรับ

จากแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรม Fintech ทำให้มีธุรกิจเกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก รวมถึงการปรับตัวของธุรกิจดั้งเดิม ที่ต้องหันมาให้ความสนใจกับเทคโนโลยีและ Digitalization มากขึ้นทำให้ “ทรัพยากรบุคคล” เป็นอาวุธสำคัญในการพัฒนาองค์กรสู่อนาคตซึ่ง emeritus ได้แนะนำ 8 อาชีพเป็นที่ต้องการสูงในสายงาน Fintech ได้แก่

    • Blockchain Expert/Developer
    • App Developer
    • Product Owner/Manager
    • Financial Analyst
    • Cybersecurity Expert
    • Quantitative Analysts and Data Scientists
    • Risk Control Managers
    • Compliance Experts

เริ่มต้นค้นหางานด้าน Fintech หรือตำแหน่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ฝากโปรไฟล์พร้อมมองหางานใหม่ที่ตอบโจทย์และตรงใจมากขึ้น

อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง:

ผลกระทบจาก AI เมื่อการสมัครงาน “ง่าย” แต่กลับได้งาน “ยาก”

รู้จัก Quiet Firing กลยุทธ์ความเงียบที่มีไว้ทำให้พนักงานอยากลาออก

แปลและเรียบเรียงจาก:

https://bit.ly/3H7XcMs

https://bit.ly/48AI6KS

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:

https://bit.ly/3H6DZdT

#ReeracoenRecruitment #ReeracoenThailand

#Recruitment #Fintech #financialtechnology

Related Posts