Reeracoen Thailand Regional Blog

  • Job Seekers
  • Employers

5 ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกใช้ Recruitment Agency

  • Home
  • General Topic
  • 5 ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกใช้ Recruitment Agency

Select Category

ในยุคที่ “คน” อาจจะหายากกว่างานทำไมการใช้บริการ Recruitment Agency ถึงเป็นทางออกที่หลายองค์กรมองหา?

สาเหตุเป็นเพราะในยุคปัจจุบันการแข่งขันเพื่อแย่งชิง “บุคลากรฝีมือ” กำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งจะอาศัยแค่การเปิดรับสมัครแบบสมัยก่อนอาจไม่เพียงพอ

องค์กรต้องรู้จัก “เข้าหา” จากช่องทางต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

แต่ไม่ใช่ทุกองค์กรที่จะสามารถทำ Recruitment ได้ครบทั้งแบบ Passive และ Active

(อ่านบทความต่อได้ที่: ความแตกต่างระหว่าง Passive และ Active Recruitment)

ทำให้ Recruitment Agencyจึงเป็นทางออกที่เข้ามาตอบโจทย์ในจุดนี้

และคำถามถัดมาคือเราควรคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้างก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้บริการ Recruitment Agency

ซึ่งเราได้รวบรวม 5 ข้อที่ต้องพิจารณา ดังนี้

1) อัตราค่าบริการ

ในแต่ละบริษัทจะมีอัตราค่าบริการที่แตกต่างกัน

โดยส่วนใหญ่ตัวเลขมักขึ้นอยู่กับ Operation Costs ซึ่งแตกต่างกันไปตามขนาดและต้นทุนที่องค์กรต้องจ่าย

อาทิ ค่าเครื่องมือ Source ผู้สมัคร โปรแกรม CRM หรือที่ตั้งของบริษัทที่สะดวกต่อการเข้าหาของผู้สมัครงาน

เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายให้กับ Partner และผู้สมัคร

2) ระยะเวลาในการค้นหา

‘เวลา’ คือปัจจัยที่องค์กรส่วนมากให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ

เพราะบางตำแหน่งงานก็จำเป็นต้องหาคนที่เหมาะสมในเวลาที่เร่งด่วน

ซึ่ง Recruitment Agency สามารถตอบโจทย์ด้วยบริการแบบ “ครบวงจร”

ทั้งช่องทาง Passive ได้แก่ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย กลุ่มหางาน

และ Active Recruitment โดย Recruiter ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสายงาน

โดยทั่วไปถ้าอาศัยเพียงการทำ Passive Recruitment การรับสมัครงาน 1 ตำแหน่งอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยที่สุด 1-2 สัปดาห์

แต่กับ Recruitment Agency อย่าง Reeracoen Thailand ที่มีทั้งฐานข้อมูลผู้สมัครในระบบและการค้นหาเชิง Active

ทำให้เราสามารถลดช่องว่างของเวลาและการันตีที่จะส่งผู้สมัครให้พิจารณาภายใน 3 วันทำการสำหรับตำแหน่งงานทั่วไป

3) ขนาดฐานข้อมูลผู้สมัคร (Candidates’ Pool)

หนึ่งในอุปสรรคที่ทำให้การ Recruitment ยากสำหรับองค์กรก็คือ “ระยะเวลาที่จำกัด”

ลองนึกภาพว่าเกิดเหตุการณ์พนักงานลา โดย HR ต้องหาคนมาแทนให้ได้ภายในสิ้นเดือน

ซึ่งกว่าจะเริ่มเปิดรับ รอให้คนสมัคร ยังต้องใช้เวลาคัดกรองอีกไม่น้อย

แต่การใช้ Recruitment Agency ซึ่งปกติมักจะมี “ฐานข้อมูลผู้สมัคร” ที่ผ่านการคัดกรองทั้งประวัติทำงาน

ทักษะต่างๆ ระดับภาษา สถานที่ทำงาน หรือแม้แต่ฐานเงินเดือน ก็จะทำให้เกิดการ Match ง่ายและตรงโจทย์มากขึ้น

ที่สำคัญคือยิ่งมีฐานข้อมูลผู้สมัครใหญ่และละเอียดเท่าไร การ Recruit ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อย่างที่ Reeracoen Recruitment ที่มีฐานข้อมูลกว่าหลายแสนคน ก็ยิ่งช่วยตอบโจทย์ให้องค์กรในเวลาที่เร่งด่วนได้มากขึ้น

4) จำนวนของทีม Recruiter

ในแต่ละวัน HR หนึ่งคนอาจคัดโปรไฟล์ผู้สมัครได้อย่างมาก 10-20 คน

แต่ใน Reeracoen Thailand เรามีทีมงานทำหน้าที่ช่วยหาอีก 50 คน โอกาสในการเจอผู้สมัครก็ยิ่งเร็วขึ้นตามจำนวนของทีมงานที่มี

รวมถึงด้านประสิทธิภาพในการทำ Active Recruitment เพราะแต่ละสายงานก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญที่ต่างกัน

ดังนั้น Agency ที่มีคุณภาพโดยส่วนใหญ่ มักจะมี Recruiter ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน

ซึ่ง Reeracoen Thailand มีทีม Recruiter มากกว่า 50 คนเพื่อประสิทธิภาพในการหาคนที่ตรงตามโจทย์มากที่สุด

5) การช่วยลดภาระงานของ HR

หน้าที่ของ HR หรืองานในแต่ละวันไม่ได้มีแค่ 1 หรือ 2 อย่าง แต่ยังมีเรื่องของเอกสาร แก้ปัญหาต่างๆ ให้คนในองค์กร

ซึ่งต่างคนต่างความต้องการ ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งต้องใช้เวลาและความละเอียดอ่อน

ในขณะที่การทำ Recruitment เองก็เป็นงานที่ต้องใช้เวลา เพื่อคัดกรองคนที่เหมาะสมกับองค์กรมากที่สุด

ดังนั้นงานส่วนอื่นๆ ก็อาจจะถูกเบียดและประสิทธิภาพลดลงซึ่งไม่เป็นผลดีต่อองค์กรอย่างแน่นอน

ในส่วนนี้หลายองค์กรจึงมองหา Partner อย่าง Recruitment Agency

ที่เข้ามาช่วยงานเป็นแขนขาให้กับฝ่าย HR อุดช่องว่างในเรื่องของภาระงานรวมถึงระยะเวลาที่ต้องใช้ในการหาผู้สมัคร

และเป็นระยะเวลากว่า 10 ปีที่ Reeracoen Thailand ได้รับความไว้วางใจจาก Partner และบริษัทชั้นนำกว่า 13,000 องค์กร

ในการค้นหาผู้สมัครที่ตรงตามโจทย์และมีคุณภาพภายใต้การทำงานโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์

พร้อมเครื่องมือที่จะทำให้การ Recruit กลายเป็นเรื่องง่าย

ติดต่อเราพร้อมให้คำปรึกษาโดย Recruiter มืออาชีพ

#ReeracoenRecruitment #ReeracoenThailand

#Recruitment #สมัครงาน #รับสมัครงาน

Related Posts