มีคนเคยพูดกับผมว่า…
“งานก็หนัก ประสบการณ์ก็เยอะ แต่พอจะเขียนเรซูเม่ กลับนึกไม่ออกเลยว่าจะเล่าอะไรให้ดูดี”
เพราะเราไม่ได้ถูกสอนให้ “เล่า”
เราถูกสอนให้ “ทำ” มากกว่า
เรามักจะคุ้นชินกับการเขียน Task ที่ทำ เช่น ทำเอกสาร, ประสานงาน, ดูแลลูกค้า, ทำรายงาน
แต่ไม่ได้เล่าว่า เอกสารนั้นช่วยให้ระบบราบรื่นขึ้นยังไง
ไม่ได้บอกว่า การประสานงานนั้นแก้ปัญหาให้ทีมได้ยังไง
ไม่ได้ใส่ลงไปว่า ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำเพราะอะไร
ความจริงคือ สิ่งที่คุณทำมาทั้งหมดมีคุณค่า
แต่สิ่งที่ขาดคือมุมมอง ที่ทำให้เห็นค่านั้นชัดขึ้น
อยากให้เรซูเม่มี value มากขึ้น ต้องเปลี่ยนคำถามในหัวจาก…
เราทำอะไรมาบ้าง?
เป็นสิ่งที่เราทำ ช่วยให้งานดีขึ้นยังไง?
หรือถ้าไม่มีเรา ตรงนั้นจะเกิดปัญหาอะไร?
ยกตัวอย่างง่ายๆ:
ประสานงานกับฝ่ายขาย
ถ้าเราลองเขียนเป็น
ประสานงานกับฝ่ายขายและทีมจัดส่ง เพื่อให้สามารถปิดออเดอร์และจัดส่งตรงเวลาในช่วงโปรเจกต์ใหญ่
ลด complaint จากลูกค้าลง 40% ภายในไตรมาสแรก
ต่างกันแค่การเล่า
แต่ impact ในสายตาคนอ่าน…เปลี่ยนไปทันที
อย่าดูถูกสิ่งที่คุณทำมา
สิ่งที่ดู “เล็กน้อย” ในสายตาคุณ
เพราะมันอาจเป็นข้อแตกต่างที่ทำให้คุณได้เปรียบ
แค่คุณต้องรู้จัก “เล่า” ให้เป็น
ฝากโปรไฟล์กับ ProFi: https://bit.ly/3FHlm3g
website: http://pro-fi.co