Reeracoen Thailand Regional Blog

  • Job Seekers
  • Employers

วิธีเพิ่มแรงดึงดูดให้โปรไฟล์สมัครงานด้วยทักษะ Project Management

  • Home
  • Career Development
  • วิธีเพิ่มแรงดึงดูดให้โปรไฟล์สมัครงานด้วยทักษะ Project Management

Select Category

วิธีเพิ่มแรงดึงดูดให้โปรไฟล์สมัครงาน
ด้วยทักษะ Project Management

การลงสนามเข้าสู่ตลาดงานที่มีการแข่งขันสูงอย่างเช่นยุคนี้ คนที่มีความสามารถโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัดก็มักจะมีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างไม่ต้องสงสัย และหนึ่งในคุณสมบัติที่ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับผู้สมัครก็คือทักษะด้าน Project Management (การบริหารโครงการ) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานยุคใหม่

เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาหลายบริษัทยังทำผลประกอบการไม่ได้ตามเป้าเลยจำเป็นต้องดำเนินงานอย่างรัดกุม ควบคุมรายจ่ายมากขึ้น ทำให้การจ้างงานแต่ละครั้งจึงเน้นที่ “ความคุ้มค่า” สูงสุด ในขณะที่ทักษะ Project Management คือคุณสมบัติที่สรุปภาพรวมของพนักงานที่มีความเป็นผู้นำ สามารถออกแบบแผนงานและบริหารจัดการได้ด้วยตัวเองตั้งแต่เริ่มต้นวางโปรเจกต์ ควบคุม ตลอดจนปิดงานแบบครบวงจร ช่วยบริษัททั้งในแง่การลดต้นทุน เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน อาจเปรียบได้ว่าเป็น “พนักงานในอุดมคติ” ของทุกๆ บริษัท หากใครครอบครองคุณสมบัตินี้ไว้ก็จะดึงดูดองค์กรต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

แม้จะมีทักษะ Project Management แต่ทำไมหลายคนถึงยังไม่ประสบความสำเร็จในการสมัครงาน

เนื่องจาก Project management เป็นชุดทักษะใหญ่ที่มีองค์ประกอบเล็กๆ อัดแน่นอยู่ภายใน อาทิ

1) กำหนดเป้าหมาย แผนงาน และขอบเขต
2) บริหารเวลา กำหนดไทม์ไลน์ให้เสร็จภายในเวลาที่เหมาะสม
3) ควบคุมงบประมาณ ติดตามค่าใช้จ่าย
4) จัดการทรัพยากรบุคคล กระจายงานและกำกับภาพรวม
5) การสื่อสารระหว่างทีมงาน ผู้บริหาร และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
7) ประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น
8) รับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้วยความยืดหยุ่น
9) ทักษะการแก้ปัญหาและตัดสินใจ
10) การใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยบริหารงาน

เมื่อคำว่า Project Management นั้นประกอบด้วยรายละเอียดมากมาย บางคนจึงอาจยังติดปัญหาตรงที่ไม่สามารถสะท้อนหรือบอกเล่าออกมาบนหน้าประวัติการทำงานให้เข้าใจได้มากพอ ในบทความนี้ Reeracoen Thailand จะมาบอกเคล็ดลับการเขียนหน้าเรซูเม่ ทำอย่างไรให้เห็นเด่นชัดและสะดุดตา HR จนต้องรีบนัดเข้าสัมภาษณ์

สะท้อนตัวอย่างประสบการณ์ผ่านการเขียนลงบนหน้าเรซูเม่

1) เริ่มต้นจากการวิเคราะห์ลักษณะงานของตำแหน่งที่เราสมัคร

มองหาชุดทักษะ รูปแบบของประสบการณ์ที่บริษัทต้องการจากตัวผู้สมัครมากำหนดเป็นโครงร่างให้ตอบรับกับความคาดหวังเหล่านั้นอย่างตรงจุดมากที่สุด และทำให้ Recruiter สนใจในทักษะการนำเสนอเพื่อมีโอกาสนัดสัมภาษณ์มากขึ้น

2) บทสรุปภาพรวมโปรไฟล์การทำงาน

จุดดึงดูดสายตาอันดับแรกๆ สำหรับคนทำงานคัดกรองผู้สมัครคือ Professional Summary หรือส่วนที่อธิบายเกี่ยวกับตัวเองโดยสรุป ระบุให้ชัดเจนในด้านประสบการณ์งานสาย Project Management ทั้งจำนวนปีที่ทำ ลักษณะของโปรเจกต์ที่ดูแล รวมถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้น (อธิบายกระบวนการทำงานที่ถนัดลงไปให้องค์กรเห็นภาพด้วย)

3) เรียบเรียงประวัติการทำงาน

นอกเหนือจากประวัติความสำเร็จในสายอาชีพ อย่าลืมสอดแทรกประสบการณ์ด้าน Project Management เข้ามาเพิ่มเติม โดยโฟกัสไปยังงานที่ประสบความสำเร็จด้วยทักษะด้านการบริหารของเรา ซึ่งต้องอธิบายตั้งแต่รูปแบบหรือลักษณะงาน วัตถุประสงค์ และผลลัพธ์ที่ได้

4) ทักษะความเชี่ยวชาญ

การปรับแต่งลิสต์ของทักษะต่างๆ ให้สอดคล้องกับรายละเอียดตัวงานเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการสมัครงานทุกวันนี้ เนื่องจาก Recruiter ส่วนใหญ่จะใช้สายตาสแกนโปรไฟล์อย่างรวดเร็ว ดังนั้นถ้าเรซูเม่ของเรามีคีย์เวิร์ดที่ตรงกันเยอะก็จะเป็นที่สนใจได้ไม่ยาก

นอกจากนี้กลุ่มคนที่เชี่ยวชาญอย่างเช่น Recruiter ในบริษัทจัดหางานยังสามารถวิเคราะห์ความสามารถ และประเมินการทำงานได้ผ่านทักษะที่ระบุไว้หากมีสกิลเฉพาะทางด้าน Project Management ก็อย่าลืมใส่ลงไปด้วย

สรุป การสะท้อนทักษะและประสบการณ์ด้าน Project Management จะช่วยสร้างโปรไฟล์ที่น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูดนายจ้างในบริษัทต่างๆ ได้ง่าย พยายามจัดวางลำดับเนื้อหาตั้งแต่จุดเริ่มต้นอย่างสรุปภาพรวมการทำงาน ผลงานความสำเร็จ ไปจนถึงประสบการณ์ รวมถึงทักษะที่เชี่ยวชาญให้ชัดเจนเพื่อให้องค์กรมีข้อมูลมากพอสำหรับการตัดสินใจและเชื่อมั่นว่าเราเป็นผู้สมัครที่ใช่

สร้าง Passive Job Opportunity และให้โอกาสงานเหล่านั้นเป็นฝ่ายวิ่งหาคุณฝากโปรไฟล์สมัครงานผ่าน Reeracoen Thailand

แปลและเรียบเรียงจาก: https://shorturl.at/QqETY

Related Posts