ในการแบ่งประเภทของ “กลุ่มคนทำงาน” เราอาจคุ้นเคยกับคำว่า Blue – Collar และ White – Collar ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่มีไว้เรียกแทนคนทำงานสองประเภท ได้แก่ กลุ่มคนที่ทำงานภาคสนาม ตามร้านค้า และกลุ่มคนที่ทำงานในออฟฟิศอย่าง ‘มนุษย์เงินเดือน’ โดยแบ่งออกเป็น
1) White – Collar Worker
คำว่า White collar สื่อถึง “การใส่เสื้อเชิ้ตเสีขาว” แทนความหมายถึงกลุ่มคนทำงานที่ใช้ชีวิตอยู่ในออฟฟิศ
หรือก็คือ ‘มนุษย์เงินเดือน’ ตั้งแต่ระดับพนักงานทั่วไป จนถึง Executive level หรือระดับผู้บริหารในองค์กร
เช่น สายงาน Accounting, marketing, consulting, IT เป็นต้น
2) Blue – Collar Worker
เป็นคำศัพท์ที่บัญญัติขึ้นมาตั้งแต่ยุค 1920 มีไว้ใช้เรียกกลุ่มคนงาน ที่พื้นที่ปฏิบัติงานไม่ได้อยู่ในออฟฟิศ
เช่น Retail, manufacturing, food service, construction ซึ่งในสมัยก่อนมักจะสวมเครื่องแต่งกาย Workwear สีฟ้า อย่างกางเกงยีนส์ หรือเสื้อผ้าที่มีความทนทานสูง
แต่ยังมีอีกหนึ่งคำจำกัดความของกลุ่มคนทำงานอย่าง Gold – Collar ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเริ่มแพร่หลายมากขึ้น
โดยความหมายของคำว่า Gold – Collar สื่อถึงกลุ่มอาชีพที่อาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางสูง
ยกตัวอย่างเช่น การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยี การเงิน ด้วยความนิยมของเทคโนโลยี Generative AI ในตลาดงาน
ทำให้ตำแหน่งงานที่มาพร้อมกับ ‘ความเป็นมนุษย์’ อาทิ การแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ และความคิดสร้างสรรค์
มีคุณค่าต่อองค์กรมากขึ้นเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา
รู้จักความหมายของ Gold – Collar
คำว่า Gold – Collar ถูกบัญญัติขึ้นครั้งแรกในปี 1985 โดยคุณโรเบิร์ต เอิร์ล เคลลี่
ซึ่งนอกจากจะเป็นลักษณะของตำแหน่งงานแบบเฉพาะทางแล้วยังหมายถึง ‘กลุ่มคน’
ที่มีทักษะในระดับสูงในสายงานนั้นๆ ด้วย เช่น คุณหมอ ทนายความ วิศวกร นักบิน และนักวิทยาศาสตร์
จากตัวอย่าง แม้ว่าจะดูเป็นงาน ‘นั่งโต๊ะ’ คล้ายกับพนักงานออฟฟิศ แต่ด้วยลักษณะงานที่อาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ลึกซึ้งมากกว่า รวมถึงได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอาชีพอื่นๆ จึงถูกแยกออกมาให้ชัดเจน โดยเฉพาะ Computer engineers, technicians, technologists อันเป็นกลุ่มงานที่มีคุณค่าอย่างสูงสำหรับหลายๆ องค์กร
การเข้าสู่สายงานในกลุ่ม Gold – Collar
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นที่ต้องการสูง และหาบุคลากรได้ยาก ก็ยังมีข้อจำกัดเป็น ‘กำแพงการคัดเลือก’ ที่สูงเช่นกัน
ดังนั้นคุณสมบัติแรกที่ต้องมีก็คือ ‘ความเชี่ยวชาญขั้นสูง’ ในสายงานตัวเอง มีวุฒิปริญญา หรือใบรับรองจากสถาบันต่างๆ เป็นใบเบิกทางเบื้องต้น จากนั้นก็ให้ประสบการณ์ขัดเกลาทักษะให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และสำคัญที่สุดคือการหมั่นพัฒนาตัวเองให้ทันยุคสมัยอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะกลุ่มสายงาน IT ที่เทคโนโลยีไม่เคยหยุดพัฒนาอย่างทุกวันนี้
ตัวอย่างตำแหน่งงานในหมวดหมู่ Gold – Collar
1) Specialized Engineer ได้แก่ วิศวกรที่มีประสบการณ์สูง และชำนาญงานเฉพาะด้าน
เช่น วิศวกรโครงสร้าง วิศวกรไฟฟ้า วิศวเครื่องกล
2) Data Scientist นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลเป็นผู้เชี่ยวชาญในการนำเครื่องมือ AI
มาประยุกต์ใช้ประโยชน์กับงานวิเคราะห์ข้อมูล สำหรับประกอบการตัดสินใจขององค์กร
3) Quantitative Analyst เป็นคนที่ใช้โมเดลวิเคราะห์เชิงปริมาณ (ตัวเลข)
สำหรับจุดประสงค์ต่างๆ ซึ่งพบบ่อยในสถาบันการเงิน – การลงทุน
โดยอาศัยทักษะคณิตศาสตร์และสถิติการคำนวนเพื่อประเมินสถานการณ์ต่างๆ ให้กับผู้ใช้
4) Specialized Developer มีความเชี่ยวชาญเชิงลึกที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละด้านมากกว่า
เช่น ถนัดงานด้าน Front end หรือ Back end Developerโดยเฉพาะ
หรือจับสาย Mobile application มาตั้งแต่ต้น จึงต่างจาก Developer ทั่วไป
ที่อาจจะทำได้หลายอย่างแต่ไม่ได้ไปสุดในแต่ละด้านมากเท่ากับกลุ่มที่เป็น Specialist
5) Neurosurgeon คือบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในระดับสูง
สามารถวิเคราะห์และรักษาอาการทางระบบประสาท อันเกิดจากสมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาทให้กับผู้ป่วย
อาชีพเหล่านี้เป็นเพียง “ตัวอย่างตำแหน่งงาน” ในกลุ่ม Gold-Collar Job ซึ่งปัจจุบันมีเปิดรับสมัครอยู่มากมาย
ฝากโปรไฟล์และเริ่มต้นค้นหางานที่ใช่ ในบริษัทที่ชอบกับ Reeracoen Recruitment
แปลและเรียบเรียงจาก:
#ReeracoenRecruitment #ReeracoenThailand #Recruitment #GoldCollarJobs #Career