ประสบการณ์ทำงานก็เหมือนของ Luxury
จะมีคุณค่า…ถ้ารู้จักเล่าให้เป็น
.
ของแบรนด์เนมหรู ไม่ใช่แค่สวย หรือแพง
สิ่งที่สร้างมูลค่าให้กับ Luxury Item เหล่านี้
คือ Story และ Craftsmanship ที่มาของของแต่ละอย่าง
จึงทำให้คนรู้สึกถึงมูลค่า และยอมจ่ายแพงกว่าของทั่วไป
.
แล้วคุณล่ะ
คุณมี Story ของการทำงานยังไง
คุณแก้ปัญหาอะไรให้ทีม
คุณเคยเปลี่ยนงานธรรมดา ให้กลายเป็นผลลัพท์ที่ดียังไง
อย่าขายประสบการณ์เหมือนของกองเซลล์
.
ลองนึกถึงนาฬิกาหรูสักเรือน
กับนาฬิกาทั่วไปที่สามารถบอกเวลาได้เหมือนกัน
นาฬิกาหรู มูลค่าอยู่ที่ Story + คุณภาพ + ประสบการณ์
ผลิตแบบมี Craftsmanship
ใช้เวลาสร้างแต่ละเรือนนาน
มีรุ่น Limited, เล่าได้ว่าใครใส่บ้าง
ยิ่งเก่า ยิ่งมีมูลค่า มีประวัติก็ยิ่งเพิ่มมูลค่า
.
ประสบการณ์ทำงานก็เช่นเดียวกัน
คราฟท์ประสบการณ์ให้เหมาะแต่ละตำแหน่งที่อยากส่งใบสมัคร
เล่าว่าคุณผ่านโปรเจกต์ยากๆ ที่ต้องใช้ฝีมืออะไรมาบ้าง
เคยร่วมงานกับคนเก่งระดับไหนมา และได้อะไร
ยิ่งผ่านเรื่องยาก ยิ่งมี Story ให้เล่า
มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่หาไม่ได้ทั่วไปในตลาดงาน
.
Job Seeker ส่วนใหญ่ เอาประสบการณ์ที่เคยทำ
ไปเล่าแบบนาฬิการาคาถูก
บอกแค่ว่าทำอะไร
ใช้คำทั่วไปจนไม่มีจุดขาย
ไม่เล่า Impact หรือ Value ที่เคยสร้าง
.
อยากเพิ่มมูลค่าในตัวคุณให้ HR เห็น คุณต้อง
Highlight ผลลัพธ์
เล่าความเชี่ยวชาญ
ใส่ Story ของความพยายาม
.
ประสบการณ์ที่ดีไม่ใช่แค่มีเยอะ แต่ต้องเล่าให้มีราคา
อย่าให้ของดีในตัวคุณ ถูกมองเหมือนสินค้าธรรมดาในชั้นวาง
.
ฝากโปรไฟล์กับ ProFi แล้วปล่อยให้โอกาสงานเป็นฝ่ายมองหาคุณ
Drop CV: https://bit.ly/3IC1srj