Reeracoen Thailand Regional Blog

  • Job Seekers
  • Employers

ทำอย่างไรในตลาดแรงงานไทยช่วงขาลง 3 วิธีเพิ่มโอกาสงานในภาวะ Tight labor market

  • Home
  • Jobs Market Insights
  • ทำอย่างไรในตลาดแรงงานไทยช่วงขาลง 3 วิธีเพิ่มโอกาสงานในภาวะ Tight labor market

Select Category

ทำอย่างไรในตลาดแรงงานไทยช่วงขาลง
3 วิธีเพิ่มโอกาสงานในภาวะ Tight labor market

ตั้งแต่ปีที่แล้วหลายบริษัทน่าจะประสบปัญหาในการดำเนินกิจการ ซึ่งเป็นผลจากภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และพิษเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้บริษัทกำไรลดลง หลายธุรกิจไปไม่รอดจนต้องปิดตัวไป ทางด้านของคนทำงานเองก็เผชิญความท้าทายหลายด้าน จำนวนคนตกงานก็เยอะ แถมจะหางานใหม่ก็ทำได้ยาก เพราะนอกจากการแข่งขันระหว่างผู้สมัครในช่วงนี้จะสูงขึ้นแล้วยังต้องต่อสู้พิสูจน์ตัวเองให้องค์กรเห็นว่าเหนือกว่า AI ด้วย

ปัญหาที่เกิดขึ้นนับว่าส่งผลโดยตรงต่อตลาดแรงงานในไทยเมื่อข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจภาวะการทำงานของประชากร รายงานอัตราว่างงานในไทยพุ่งแตะ 4.29 แสนคนในไตรมาสที่ 2 ปี 2024 ถือเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา

พบส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กจบใหม่และผู้ที่ไม่เคยทำงานถึง 2.44 แสนคน และกลุ่มผู้ที่เคยทำงานมาก่อนอีก 1.85 แสนคน โดยมีเหตุผลเป็นการตัดสินใจ “ลาออก” มากถึง 57% สามารถแบ่งแยกย่อยกลุ่มที่สองตามลักษณะงานได้แก่

1) การค้าและบริการ – 1.22 แสนคน
2) การผลิต – 5.1 หมื่นคน
3) การเกษตร – 1.2 หมื่นคน

นอกจากนี้สถิติชั่วโมงการทำงานของพนักงานภาคเอกชนยังมีตัวเลขค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 46.6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (วันละ 9.3 ชั่วโมง) จาก 44 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (วันละ 8.8 ชั่วโมง)

เมื่อคนตกงานมากขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทก็เปิดรับสมัครพนักงานน้อยลง แถมภาพรวมยังดูเหมือนกับว่าเราต้องทำงานหนักกว่าที่ผ่านมาตัวเลขเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานในไทยกำลังอยู่ในช่วงขาลง ดังนั้นใครที่กำลังมองหางานในช่วงนี้อาจต้องทำการบ้านให้มากขึ้นว่าในฐานะคนทำงานจะมีวิธีเอาตัวรอดอย่างไรในสถานการณ์ดังกล่าว และนี่คือ 3 คำแนะนำที่เราอยากจะบอกในฐานะบริษัทจัดหางานที่มีประสบการณ์ในไทยกว่า 11 ปี

  • Work hard กับการพัฒนาตัวเองมากขึ้น
    จากปัญหาที่เราหยิบยกมาพูดถึงกันก่อนหน้านี้ ทุกคนน่าจะเห็นเหมือนกันตลาดงานที่มีการจ้างงานลดลงได้บังคับให้ทุกคนจำเป็นต้องเข้าสู่โหมดการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น คนที่เพียบพร้อมที่สุดก็จะเป็นฝ่ายคว้าโอกาสที่มีอยู่จำกัดได้ก่อน 

    ดังนั้นการ Work hard เพื่อพัฒนาตัวเองต่อเนื่องจึงเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลาเช่นนี้ ลักษณะงานที่เปลี่ยนไปต้องอาศัย Skill set ใหม่ๆ เข้ามาทดแทนของเดิม หมั่นพัฒนาทักษะที่ทันสมัยมาปรับใช้กับการทำงาน เช่น ทักษะสาย Tech หรือความรู้อื่นๆ ที่จำเป็นต่ออนาคตของโลกธุรกิจในระยะยาว รวมถึงศึกษาเทรนด์ความต้องการของตลาดสม่ำเสมอเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับตัวเองในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่ง 

  • สร้างช่องทางเข้าถึงโอกาสใหม่ๆ
    ตลาดแรงงานในไทยมีอัตราการจ้างงานน้อยลงในช่วงนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีช่องว่างของโอกาสให้เข้าถึงไปเสียทีเดียว เพราะความต้องการพนักงานในแต่ละตำแหน่งยังคงมีอยู่เรื่อยๆเพียงแค่เปลี่ยนกลยุทธ์และรูปแบบการจ้างที่เหมาะกับองค์กร เช่น กลุ่ม Hidden Job Market ที่ไม่ได้ลงประกาศทั่วไป 

    เมื่อองค์กรดำเนินการจ้างงานด้วยความรัดกุมมากๆ จึงพยายามหาวิธีลดภาระงานให้กับพนักงานจนเหลือน้อยที่สุด เช่น บางตำแหน่งอาจใช้วิธี Referral จากคนภายในหรือใช้วิธีการ Sourcing เพื่อให้ได้ผู้สมัครที่ตรงจุดมากขึ้นและเสียเวลากับทรัพยากรอื่นๆ น้อยลง 

    ดังนั้นการใช้ Networking จึงเป็นหนึ่งในช่องทางที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งโดยเฉพาะในช่วง Tight labor market ที่มีปริมาณงานว่างน้อย ซึ่งจะทำให้ผู้สมัครที่มาจากการแนะนำโดยคนที่รู้จักกันอยู่แล้วมีโอกาสประสบความสำเร็จกับการสมัครงานมากขึ้น 

  • ลดทอนภาระ กระจายหน้าที่ออกจากตัว
    ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกสมัครงานสักหนึ่งตำแหน่ง เชื่อว่าทุกคนมีการศึกษาข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างละเอียดทั้งลักษณะงาน ข้อมูลองค์กร โครงสร้างเงินเดือน สวัสดิการต่างๆ ซึ่งกว่าจะได้ “งานที่ใช่” ก็กินเวลาและทรัพยากรของเราไปไม่น้อย 

    แทนที่จะเสียเวลาค้นหาและนั่งอ่านอ่านรายละเอียดบนเว็บประกาศ เราสามารถใช้เวลาเหล่านี้ให้เกิดความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น อาทิ ใช้ทำงานเสริม ลงเรียนเพิ่มเติม หรือให้ร่างกายได้พักผ่อนเพียงแค่รู้จัก “กระจายหน้าที่” ออกจากตัวเอง 

    ต้องขออธิบายถึงรูปแบบที่องค์กรมักจะใช้ในการรับสมัครพนักงานกันก่อน วิธีการหลักก็คือลงประกาศงานตามช่องทางต่างๆ ซึ่งเรียกว่าการรับสมัครแบบ Passive Recruitment ที่ให้ผู้สมัครเห็นข้อมูลแล้วตัดสินใจเป็นฝ่ายยื่นสมัครเข้ามาก่อนจะเข้าระบบคัดกรองและพิจารณาตามกระบวนการของบริษัท 

    อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งรูปแบบรับสมัครงานที่ดำเนินการผ่าน “ตัวแทน” อาจติดต่อจากบริษัทโดยตรง หรือจากบริษัทเอเจนซีจัดหางานที่มีวิธีการทำงานแบบเน้น “เข้าหาผู้สมัคร” และแนะนำงานที่เหมาะสม 

    ความแตกต่างจึงอยู่ที่เราไม่จำเป็นเสียพลังงานไปดำเนินการเองอยู่เฉยๆ ก็มีโอกาสได้รับติดต่อเสนอตำแหน่งงานที่น่าสนใจ มีข้อมูล Insight เกี่ยวกับองค์กรเป็นไกด์ไลน์ประกอบการสัมภาษณ์ ช่วยประหยัดทั้งเวลา และเพิ่มโอกาสได้งานแบบไม่ต้องเหนื่อย ตอบโจทย์ยุคสมัยที่การแข่งขันสูง แถมเวลามีค่ายิ่งกว่าทอง

รู้แบบนี้แล้ว วันนี้เพื่อนๆ ได้ปูทางสำหรับโอกาสใหม่ให้อนาคตของตัวเองกันแล้วหรือยัง ฝากโปรไฟล์สร้าง Passive Job Opportunity
และให้โอกาสงานเป็นฝ่ายวิ่งหาคุณ ลงทะเบียนกับ Reeracoen Thailand ตอนนี้เลย

ฝากโปรไฟล์สมัครงานผ่าน Reeracoen Thailand

แหล่งที่มาข้อมูล: https://shorturl.at/yrl18

Related Posts