Reeracoen Thailand Regional Blog

  • Job Seekers
  • Employers

8 ข้อควรทำก่อนที่จะขอขึ้นเงินเดือน

  • Home
  • How to
  • 8 ข้อควรทำก่อนที่จะขอขึ้นเงินเดือน

Select Category

8 ข้อควรทำก่อนที่จะขอขึ้นเงินเดือน

ผลสำรวจของ Payscale ในปีค.ศ. 2015 พบว่าจากตัวอย่าง 30,000 คน มีเพียง 43% ที่กล้าขอขึ้นเงินเดือน โดยสำเร็จแค่ 5,600 คนหรือคิดเป็น 18.6% จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด แล้วทำไมมนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องลำบากใจและผิดหวังเสมอเมื่อต้องพูดคุยเรื่องเงินเดือน ทั้งๆ ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการครองชีพ?

การขอขึ้นเงินเดือนคงเป็นสิ่งที่คนทำงานแทบทุกคนคงจะรู้สึกคล้ายๆ กันว่าพูดยาก ขอยากและมีโอกาสสูงมากที่จะถูกบ่ายเบี่ยง ซึ่งจะเป็นปมฝังใจว่า “ตัวเราไม่ดีพอ” แต่ความจริงบริษัทควรมีการหมั่นปรับฐานเงินเดือนให้กับพนักงาน โดยอิงจากเรทเงินเดือนสายอาชีพ อายุงาน ผลประกอบการและผลงานที่ได้ทำ เพื่อรักษาประโยชน์ทั้งสองฝ่าย พนักงานไม่หนีหายและองค์กรอาจได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น

เมื่อลูกจ้างอยากได้แต่ก็ไม่กล้าขอ ส่วนนายจ้างก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมถึงต้องให้ อัตราเงินเดือนจึงกลายเป็นประเด็นที่หาตรงกลางได้ยาก มนุษย์เงินเดือนหลายคนเลยตกอยู่ในสถานะ ‘ดอง’ ตัวงานดี สังคมโอเค เลยอยู่ต่อไปเรื่อยๆ โดยที่เงินไม่ขยับ (หรือขยับนิดหน่อย)

เมื่อใจไม่ได้อยากย้ายงาน แค่ต้องการผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อมากขึ้น เราจึงต้องอุดช่องโหว่ระหว่างพนักงาน-นายจ้างด้วยเหตุผลที่ดีทำให้นายจ้างเชื่อมั่นว่าจะเป็นทางออกที่ ‘วิน-วิน’ ทั้งสองฝ่าย รวมเทคนิค 8 ข้อควรทำก่อนที่จะขอขึ้นเงินเดือน

สิ่งที่ควรทำ

1) สำรวจฐานเงินเดือน

การสำรวจฐานเงินเดือนจะทำให้เรารู้ว่าในอาชีพเดียวกัน ตำแหน่งเดียวกันนี้ได้แค่ไหน ซึ่งต้องดูความสมน้ำสมเนื้อของเงินและงานด้วย ความยาก ความท้าทายต่างกันยังไงเพื่อกำหนดตัวเลขในใจไว้ก่อน

2) มีตัวเลขในใจ

การมีตัวเลขในใจจะทำให้เรามี ‘เป้า’ ที่ชัดเจนโดยที่ต้องไม่เยอะจนเกินไป แต่ก็ควรตอบสนองความพึงพอใจมากที่สุดเพราะไม่สามารถขอได้บ่อยๆ

3) รวบรวมผลงาน

ตั้งแต่ทำงานที่นี่อะไรที่เป็นผลงานชัดๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ทีมหรือองค์กรในทางที่ดีขึ้นบ้างเพื่อประเมินตัวเองว่า ‘ดีพอ’ จะไปขอผลตอบแทนที่มากขึ้นหรือยัง

4) รู้คุณค่าตัวเอง

จุดเด่นของเราคืออะไร สามารถทำอะไรให้ทีมและองค์กรซึ่งคนอื่นทำไม่ได้ การรู้ข้อนี้จะทำให้เรามีน้ำหนักมากพอที่จะให้องค์กรจะกล้าลงทุนเพิ่มขึ้น

5) วางแผนอนาคต การเติบโตในระยะยาว

เมื่อเรากล้าที่จะขอผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น เราก็ต้องมีอะไรให้องค์กรกลับไปเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน วางแผนให้ดีทั้งโปรเจกต์ใหม่ๆ โอกาสเติบโตในอนาคต

6) มองไกลกว่าตัวเงิน

หากสุดท้ายไม่ได้สิ่งที่คาดหวังแต่ก็ไม่ได้อยากย้ายไปไหน ลองนึกถึงสิ่งอื่นนอกเหนือจากเงิน เช่น งบสำหรับลงเรียนคอร์ส วันหยุดพิเศษหรืออื่นๆ ที่องค์กรมอบให้ได้และเป็นผลดีกับองค์กรด้วย

7) นัดคุยจริงจัง

เมื่อเรื่องเงินนั้นสำคัญเราจึงต้องทำให้หนักแน่น ควรนัดหมายอย่างชัดเจน แสดงความจริงจังให้หัวหน้ารับรู้มากกว่าพูดคุยตอนกินข้าวหรือเดินผ่านไปมา

8) มั่นใจในตัวเอง

เมื่อรู้สิ่งที่ควรเตรียมตัวเราก็สามารถปรับใช้ตามความถนัดด้วยหลัก G.I.M.M.E

Give Background: ประวัติการทำงาน ผลงาน

Introduce: คุณสมบัติความสามารถ

Make Your Case Research-based: ชี้ให้เห็นฐานงานเดือนในตลาด

Make the ask: ขอผลตอบแทนในฐานะรางวัลและแรงกระตุ้น

Ending: จบด้วยความจริงจังและมั่นใจ

สรุปขั้นตอนเตรียมตัวแบบง่ายๆ

สเต็ปที่ 1 “การเตรียมตัว”

  • สำรวจฐานเงินเดือนในตลาดเพื่อหาตัวเลขในใจ
  • รวบรวมผลงาน ความสำเร็จ
  • ดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม (อารมณ์ สถานการณ์ เวลา)
  • นัดหมายอย่างจริงจัง (เช่นคุย One on one)

สเต็ปที่ 2 “พูดคุย”

  • พูดถึงความสำเร็จและผลงานที่ผ่านมา
  • เกริ่นถึงคุณค่าและความโดดเด่นของตัวเอง
  • นำเสนอแผนในอนาคต ความท้าทายใหม่ๆ และความต้องการที่ต้องการเติบโตในองค์กร
  • ขอขึ้นเงินเดือน เพื่อเป็นกำลังใจให้ความทุ่มเทและกระตุ้นสู่เป้าหมายที่วางไว้

สเต็ปที่ 3 “รอผล”

เมื่ออธิบายหมดแล้วเราควรหยุดพูดเพื่อแสดงความหนักแน่นและมั่นใจ โดยทั่วไปหัวหน้ามักขอเวลาคิด และจะนัดมาพูดคุยอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุป หากคำตอบคือไม่ แต่เราต้องการผลตอบแทนที่มากขึ้นจริงๆ อาจลองมองหาในรูปแบบอื่น เช่นวันหยุดพิเศษ สวัสดิการที่เพิ่มขึ้นหรืองบสำหรับลงเรียนคอร์สต่างๆ ซึ่งมีโอกาสที่จะได้ง่ายกว่า

5 กลุ่มทักษะและอาชีพที่จะไม่มีวันถูกยึดครองด้วยเทคโนโลยี AI

8 ข้อดีสุดเหลือเชื่อจากความขี้เกียจ (อย่างพอดี)

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:

https://we.co/3eqJ0mG

https://bit.ly/3T4qJdE

https://bit.ly/3rFwlzw

https://bit.ly/3yu1kCo

Related Posts