5 ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกใช้ Recruitment agency
ในยุคที่ “คน” อาจจะหายากกว่างาน รู้หรือไม่ว่าทำไมการใช้บริการ Recruitment agency ถึงเป็นทางออกที่หลายองค์กรมองหา
สาเหตุเป็นเพราะในยุคปัจจุบันการแข่งขันเพื่อแย่งชิง “บุคลากรฝีมือ” กำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ หากจะอาศัยแค่การเปิดรับสมัครแบบสมัยก่อนอาจไม่เพียงพอ องค์กรจึงต้องรู้จัก “เข้าหาผู้สมัคร” จากแต่ละช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพด้วย แต่ปัญหาคือไม่ใช่ทุกองค์กรที่จะสามารถใช้กลยุทธ์การ Hiring ได้ครบทั้ง Passive และ Active Recruitment
ทำให้ตัวกลางอย่างบริษัทจัดหางานกลายเป็นทางออกที่เข้ามาตอบโจทย์ในจุดนี้ และคำถามถัดมาคือหากอยากจะเริ่มใช้บริการสรรหาพนักงาน องค์กรควรคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้างก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้บริษัทจัดหางาน ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญอยู่ 5 ข้อที่ต้องพิจารณาดังนี้
- อัตราค่าบริการ
บริษัทจัดหางานแต่ละเจ้าจะมีอัตราค่าบริการที่แตกต่างกัน โดยตัวเลขมักกำหนดจาก Operation Cost ที่แตกต่างกันไปตามขนาดขององค์กรรและต้นทุนอื่นๆ ที่ต้องจ่าย อาทิ เครื่องมือ Sourcing ผู้สมัคร โปรแกรม CRM หรือสถานที่ตั้งของบริษัทเพื่อความสะดวกในการเข้าหาผู้สมัคร รวมถึงง่ายสำหรับบริษัทพาร์ทเนอร์เช่นกัน
- ระยะเวลาในการค้นหา
‘เวลา’ คือปัจจัยที่องค์กรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ เพราะบางตำแหน่งไม่สามารถรอได้ และจำเป็นต้องหาคนที่เหมาะสมในเวลาที่เร่งด่วนซึ่งบริษัทจัดหางานมักจะตอบโจทย์ด้วยบริการแบบครบวงจร ทั้งช่องทาง Passive ได้แก่ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย กลุ่มหางาน และ Active Recruitment โดยทีมรีครูทเตอร์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสายงาน
โดยทั่วไปถ้าอาศัยเพียงการทำ Passive Recruitment การรับสมัครงาน 1 ตำแหน่งอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยที่สุด 1-2 สัปดาห์ แต่สำหรับบริษัทจัดหางานอย่าง Reeracoen Thailand ที่มีทั้งฐานข้อมูลผู้สมัครในระบบและการค้นหาเชิง Active ทำให้เราสามารถการันตีที่จะส่งผู้สมัครให้พิจารณาภายใน 3 วันทำการ (สำหรับตำแหน่งงานทั่วไป)
- ขนาดฐานข้อมูลผู้สมัคร (Candidates’ Pool)
หนึ่งในอุปสรรคที่ทำให้การ Recruit เป็นเรื่องยากสำหรับองค์กรก็คือ “ระยะเวลาที่จำกัด” ลองนึกภาพว่าเกิดเหตุการณ์พนักงานลา โดย HR ต้องหาคนมาแทนให้ได้ภายในสิ้นเดือน กว่าจะเริ่มเปิดรับ รอให้คนสมัคร แล้วยังเผื่อเวลาสำหรับคัดกรองอีกพอสมควร
แต่การใช้บริษัทจัดหางาน ซึ่งปกติมักจะมี “ฐานข้อมูลผู้สมัคร” ที่ผ่านการคัดกรองทั้งประวัติทำงาน ทักษะระดับภาษา สถานที่ทำงาน หรือแม้แต่ฐานเงินเดือน ก็จะทำให้เกิดการ Match ได้ง่ายและตรงโจทย์มากขึ้น
- ขนาดของทีม Recruiter ในบริษัท
ในแต่ละวัน HR หนึ่งคนอาจคัดโปรไฟล์ผู้สมัครได้อย่างมาก 10-20 คน แต่ใน Reeracoen Thailand เรามีทีมงานทำหน้าที่ช่วยหาอีก 50 คน โอกาสในการเจอผู้สมัครก็ยิ่งเร็วขึ้นตามจำนวนของทีมงานที่มี รวมถึงด้านประสิทธิภาพในการทำ Active Recruitment เพราะแต่ละสายงานก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญที่ต่างกัน ดังนั้น agency ที่มีคุณภาพโดยส่วนใหญ่ มักจะมี Recruiter ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน
- การช่วยลดภาระงานของ HR
หน้าที่ของ HR หรืองานในแต่ละวันไม่ได้มีแค่ 1 หรือ 2 อย่าง แต่ยังมีเรื่องของเอกสารการแก้ปัญหาต่างๆ ให้คนในองค์กร ซึ่งต่างคนต่างความต้องการ ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งต้องใช้เวลาและความละเอียดอ่อน ในขณะที่การทำ Recruitment เองก็เป็นงานที่ต้องใช้เวลาเพื่อคัดกรองคนที่เหมาะสมกับองค์กรมากที่สุด
ดังนั้นงานส่วนอื่นๆ ก็อาจจะถูกเบียดและประสิทธิภาพลดลงซึ่งไม่เป็นผลดีต่อองค์กรอย่างแน่นอน ในส่วนนี้หลายองค์กรจึงมองหา Partner อย่าง agency ที่เข้ามาช่วยงานเป็นแขนขาให้กับฝ่าย HR อุดช่องว่างในเรื่องของภาระงานรวมถึงระยะเวลาที่ต้องใช้ในการหาผู้สมัคร
เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีที่ Reeracoen Thailand ได้รับความไว้วางใจจาก Partner และบริษัทชั้นนำกว่า 13,000 องค์กรในการค้นหาผู้สมัครที่ตรงตามโจทย์และมีคุณภาพภายใต้การทำงานโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ พร้อมเครื่องมือที่จะทำให้การ Recruit กลายเป็นเรื่องง่าย ติดต่อเราพร้อมให้คำปรึกษาโดย Recruiter มืออาชีพ
อ่านบทความ 5 ข้อผิดพลาดของการสัมภาษณ์ที่อาจทำให้คุณทำผู้สมัครหลุดมือไปโดยไม่รู้ตัว