Reeracoen Thailand Regional Blog

  • Job Seekers
  • Employers

เช็กลิสต์ 5 ข้อควรระวังก่อนสมัครงาน องค์กรแบบไหนที่ควรเลี่ยง

  • Home
  • General Topic
  • เช็กลิสต์ 5 ข้อควรระวังก่อนสมัครงาน องค์กรแบบไหนที่ควรเลี่ยง

Select Category

เช็กลิสต์ 5 ข้อควรระวังก่อนสมัครงาน องค์กรแบบไหนที่ควร “เลี่ยง”

สมัครงาน ย้ายงาน จุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตที่สามารถพาไปทั้งอนาคตที่สดใสและฝันร้ายบนโลกแห่งความเป็นจริง เพราะเลือกผิด = ชีวิตเปลี่ยน แล้วคนทำงานควรรู้อะไรบ้างเพื่อป้องกันความผิดพลาดในอนาคต วันนี้ Reeracoen Thailand นำ 5 ข้อควรระวังก่อนสมัครงาน ที่คนทำงานต้องคิดให้รอบคอบมาฝากกันครับ

เคยไหม ที่สมัครงานหรือย้ายงานไปด้วย “ความหวัง” แต่พอได้เข้าไปทำงานจริงๆ กลับเจอแต่ “ความพัง” ทั้งปัญหาวัฒนธรรมองค์กร เนื้องาน เพื่อนร่วมทีม หรือแม้กระทั่งเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว ซึ่งพาเสียทั้งเวลา สุขภาพจิต และโอกาสที่เราอาจได้ไปอยู่ในที่ที่ดีกว่า

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ เพราะถูกดึงดูดด้วย “ด้านดี” ที่องค์กรเสนอให้จนลืมเช็กข้อมูลสำคัญให้รอบด้านก่อนที่จะตัดสินใจสมัครงาน หรือย้ายงาน เรามี 5 ข้อควรระวังก่อนสมัครงานที่ควรรู้และพิจารณาก่อนตัดสินใจมาฝากกันครับ

1. ข้อมูลและชื่อเสียงองค์กร

ข้อควรระวังก่อนสมัครงาน หรือเริ่มงานในบริษัทใดก็ตามควรทำความรู้จักกับบริษัท หรือตัวงานก่อน เพื่อศึกษาทำความคุ้นเคยล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นจากโซเชียลมีเดียขององค์กร เว็บไซต์หรือมุมมองของคนที่เคยมีประสบการณ์ว่าพูดถึงบริษัทนี้อย่างไร แต่ถ้าหากองค์กรนั้น “ไม่มีข้อมูล” หรือ “ถูกพูดถึงในแง่ลบเป็นประจำ” ก็เป็นจุดที่ควรระวังและให้ความสนใจเพราะอาจเกิดปัญหากับตัวเราได้ในอนาคต ไม่ว่าจะในทางการทำงาน หรือร้ายแรงกว่านั้น

เราสามารถตรวจสอบและศึกษาประวัติองค์กร ลักษณะงาน ผ่านทางโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ และช่องทางต่างๆ ว่าเป็นธุรกิจแบบไหนดำเนินการอย่างไร รวมถึงชื่อเสียงของบริษัทตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อความถูกต้อง ของข้อมูลและความชัดเจนก่อนตัดสินใจเริ่มงาน พร้อมป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

2. วัฒนธรรม และการปฏิบัติต่อพนักงาน

ชีวิตการทำงาน นอกจากงานและค่าตอบแทน อีกหนึ่งปัจจัยที่หลายคนๆ มักจะให้ความสำคัญและคนทำงานควรพิจารณาก่อนสมัครงานและเริ่มงานก็คือ “วัฒนธรรมองค์กร”

เคยไหม เมื่อถึงวันนัดสัมภาษณ์แต่จู่ๆ นายจ้างก็แจ้งว่าไม่ว่างเข้าสัมภาษณ์ หรือกำลังสัมภาษณ์อยู่ดีๆ จู่ๆ ก็ลุกออกไปคุยโทรศัพท์ ปล่อยเรานั่งอยู่ในห้องแบบงงๆ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึง “ความเคารพ” และการให้ความสำคัญที่นายจ้างมีต่อพนักงาน ซึ่งในอนาคตก็คงเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ได้อีกเช่นกัน แน่นอนว่าถ้าหากงานดี เงินดี แต่วัฒนธรรม Toxic ก็ย่อมส่งผลต่อความสุขในการทำงาน และเมื่อนานไปสุขภาพจิตก็ยิ่งทรุดโทรม ประสิทธิภาพในการทำงานก็ย่อมลดน้อยถอยลงทั้งทางตรงและทางอ้อม จนสุดท้ายความ Toxic ก็จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราอย่างไม่ทันตั้งตัว

ข้อควรระวังก่อนสมัครงาน ลองสังเกตพฤติกรรมทั้งคำพูด น้ำเสียง หรือการปฏิบัติของคนในองค์กรนั้นๆ ที่มีต่อกัน และการให้ความสำคัญของวัน เวลา ความชัดเจนในการประสานงานเพื่อนัดสัมภาษณ์ ว่าองค์กรนั้นๆ ให้ความสำคัญกับเรามากน้อยแค่ไหน

3. ไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนในเรื่องสำคัญ

ในการสัมภาษณ์หรือการพูดคุยก่อนที่จะตกลงสมัครงาน และทำงานร่วมกัน เราควรที่จะสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานและตัวเราให้ชัดเจน และหากองค์กรมีทีท่าว่าไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลสำคัญทั้งที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน หรือกระทบต่อตัวเรา อาจหมายความว่าพวกเขาต้องการ “ปกปิดปัญหาบางอย่าง” ซึ่งก็เป็นข้อควรระวังก่อนสมัครงานที่อาจจะกระทบต่อเราในอนาคต

ยกตัวอย่างกรณีผู้สมัครถามว่า “ทำไมตำแหน่งนี้ถึงเปิดรับเพิ่ม” องค์กรทั่วไปก็น่าจะสามารถตอบได้ทันที เช่น “มีงานเข้ามาเยอะขึ้น” หรือ “ต้องการขยายทีม” หรือ “เพราะคนเก่าย้ายออกไป จึงต้องหาคนมาแทน” เพื่อให้ผู้สมัครหรือพนักงานใหม่ได้ทำความเข้าใจเหตุผล รวมถึงวางแผนการทำงานของตัวเองให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น เพราะในฐานะที่กำลังจะร่วมงานกันทั้งองค์กรและพนักงานควรเปิดกว้างกันในข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องเพื่อความชัดเจนและประโยชน์สูงสุดแก่ทั้งสองฝ่าย

4. พยายาม “ขายฝัน” แบบเกินจริง

เป็นธรรมดาที่นายจ้างที่อยากได้พนักงานที่มีความสามารถเข้ามาสมัครงาน จึงต้องพยายามผลักดัน ดึงดูดคนทำงานด้วยข้อดีของบริษัทตัวเอง แต่ในฐานะคนทำงานสิ่งที่เราควรตระหนักคือการนึกถึง “ความเป็นจริง” ว่านอกเหนือจากสิ่งที่องค์กรพยายาม “ขาย” ยังมีอะไรซ่อนอยู่อีกบ้างที่เราควรรู้ อาทิ ความกดดัน วัฒนธรรมองค์กร เพื่อนร่วมงาน หน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งไม่ควรถูกมองข้ามเช่นกัน

อาจหาคำตอบด้วยคำถามเจาะจงเพื่อให้ได้ความชัดเจนจากองค์กรมากที่สุด เช่น

  • ปริมาณงานต่อสัปดาห์ที่ต้องรับผิดชอบ
  • ชี้วัดประสิทธิภาพ หรือผลการทำงานด้วยอะไร
  • แผนในการขยายทีมเป็นอย่างไร

5. ไม่สามารถช่วยให้พนักงานมีโอกาสเติบโต

ก่อนตัดสินใจย้ายงาน หรือเซ็นสัญญากับองค์กร ควรศึกษาและสอบถามให้แน่ชัดถึงการภาพรวมของการทำงานจริงและโอกาสที่จะได้พัฒนาตัวเองควบคู่ไปกับเป้าหมายขององค์กร อาทิ

  • ลักษณะงาน
  • ความท้าทาย
  • แผนงานในอนาคต
  • โอกาสเติบโต

คงไม่ดีแน่ถ้าเราจะต้องทำงานไปวันๆ โดยที่ไม่มีโอกาสพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น หรือพาองค์กรประสบความสำเร็จ เพราะหากสุดท้ายทั้งเราและองค์กรไม่พัฒนา วันหนึ่งก็จะกลายเป็นผู้แพ้ในตลาดการแข่งขันที่เข้มข้นยิ่งขึ้นทุกวินาที สุดท้ายลองสำรวจตัวเองกันก่อนที่จะตัดสินใจสมัครงาน ย้ายงาน หรือเซ็นสัญญาเริ่มงานกับบริษัทใดก็แล้วแต่ วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย และนึกถึงโอกาสที่จะเสียไปหากไม่คิดอย่างรอบคอบ

Related Posts