เปลี่ยนงานกลางปีเป็นไอเดียที่ดีไหม หรือมีอะไรที่เราควรต้องรู้
เป็นที่เข้าใจว่าช่วงเวลาที่เหมาะกับการมองหางานใหม่คือช่วง “ต้นปี” ตั้งแต่มกราคมจนถึงมีนาคม ซึ่งบริษัทเริ่มดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้เมื่อปลายปีและอาจมีการเปิดแผนกใหม่ หรือขยายทีมตามแผนงาน จึงมีตำแหน่งงานที่ต้องการทรัพยากรบุคคลจำนวนมาก ทำให้เป็นช่วงนาทีทองของคนที่กำลังมองหาโอกาสย้ายงานและเมื่อพ้นช่วงนี้ไปตลาดแรงงานก็จะค่อยๆ เงียบลง
แต่จากประสบการณ์ Recruitment Agency ในไทยกว่า 10 ปี เราอยากนำเสนอในอีกมุมมองหนึ่งว่าความจริงแล้ว “ตำแหน่งงานว่าง” อาจไม่ได้มีลักษณะที่ขึ้นลงตายตัวแบบนั้นและตลาดการจ้างงานทั้งหมดก็ไม่ได้แบ่งเป็น “ฤดู” แบบที่เข้าใจกัน เพราะปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการจ้างงานเกิดจากหลายส่วน อาทิ การขยายองค์กร การปรับเปลี่ยนแผนงานของบริษัท สถานการณ์แวดล้อมที่ส่งผลต่อธุรกิจที่ทำให้มีตำแหน่งงานเกิดขึ้นหรือลดลง
ดังนั้นจึงแปลว่าตำแหน่งงานว่างสามารถเกิดขึ้นได้ “ตลอดทั้งปี” ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา สถานการณ์และโอกาสว่าเราจะหาเจอหรือไม่
จากฐานข้อมูลในระบบของ Reeracoen Thailand พบว่าช่วงเวลา “กลางปี” ก็เป็นอีกหนึ่งจังหวะที่เรายังสามารถหางานได้ เมื่อเทียบความต้องการจัดหาพนักงานเมื่อเทียบไตรมาสที่ 1 (ม.ค.-มี.ค.) ซึ่งว่ากันว่าดีที่สุด กับไตรมาสที่ 2 (เม.ย.-มิ.ย.) ในจำนวน 1,550 ตำแหน่งต่อ 1,330 ตำแหน่งตามลำดับ ก็ถือว่าเป็นอัตราความต้องการที่มีจำนวนใกล้เคียงกัน
ทำไมช่วงกลางปีถึงเป็นอีกหนึ่งช่วงที่น่าสนใจสำหรับการย้ายงาน
เนื่องจากโดยทั่วไปบริษัทมักจะกำหนดเป้าหมายใหม่ในทุกๆ ปี หรือบางแห่งอาจแบ่งย่อยออกมาเป็นไตรมาส (ทุกๆ 3 เดือน) ซึ่งส่งผลต่อการทำงานและทำให้พนักงานต้องมีการปรับตัว หลายคนจึงพิจารณามองหาทางเลือกที่เหมาะกับตัวเองมากขึ้น
รวมถึงช่วง “กลางปี” บริษัทหลายแห่งก็มีการจ่ายโบนัสและปรับฐานเงินเดือน จึงเป็นอีกหนึ่งจังหวะเวลาที่คนทำงานจำนวนไม่น้อยคิดอยาก “ย้ายงาน” เพื่อหาความท้าทายหรือโอกาสการเติบโตในทิศทางใหม่ๆ
ดังนั้นบริษัทที่มีประสบการณ์หรือมีความเข้าใจด้านทรัพยากรบุคคลก็จะพอทราบว่าช่วงเวลาดังกล่าวคือ “นาทีทอง” สำหรับบริษัทในการเปิดรับคนที่มีความสามารถ และกำลังความกระหายต่อความท้าทายเข้ามาทำงานและสร้างผลประโยชน์ในองค์กร ทำให้เมื่อพิจารณาจากตัวเลขแล้วอัตราการจ้างงานช่วงกลางปีอาจมีไม่แพ้ช่วงต้นปีด้วยซ้ำ
ทิ้งท้าย
บางตำแหน่งงานอาจไม่ได้มีการเปิดรับสมัครให้บุคคลทั่วไปเห็นแต่จะเกิดจากกระบวนการ Internal Hiring ขององค์กร ซึ่งจะติดต่อเข้าหาเฉพาะเป้าหมายที่ถูกคัดกรองมาแล้ว หมายความว่าหากเราอยากได้รับโอกาสนั้นสิ่งที่ต้องทำคือพยายาม “อัปโปรไฟล์” ให้ตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการ Active บน Linkedin มากขึ้น หรืออัปเดตเรซูเม่บ่อยๆ รวมถึงการฝากโปรไฟล์ไว้กับบริษัทจัดหางานก็ถือเป็นหนึ่งในช่องทางที่ดีที่สุดสำหรับการมองหางานในทุกๆ ช่วงเวลาเช่นกัน
อ่านบทความเพิ่มเติมที่:
สัญญาณของ Dead-End Job ที่ไม่มีโอกาสให้เราได้เติบโต